Marriott Executive Apartments Sukhumvit Park Bangkok สถานที่สวย 2 สไตล์ จัดงานได้ทั้งอินดอร์และเอาท์ดอร์
นุ๊กนิกกับหยุนห่าว (เจ้าบ่าว) เลือกจัดงานแต่งที่ Marriott Executive Apartments Sukhumvit Park Bangkok (แมริออท เอ็กเซ็กคิวทีฟ อพาร์ทเมนต์ สุขุมวิท พาร์ค กรุงเทพฯ) เพราะตอนที่หยุนห่าวอยู่สิงคโปร์ เขาไม่ค่อยเห็นโรงแรมที่มีโซนเอาท์ดอร์ด้วย พอดูในอินเทอร์เน็ตและได้เห็นของจริงก็ชอบมากค่ะ เพราะโรงแรมมีสวนธรรมชาติที่ให้ความรู้สึกผ่อนคลายสบายตา ขณะเดียวกันก็ยังมีพื้นที่อินดอร์ สามารถจัดงานได้เป็นสัดส่วน ราคาสมเหตุสมผล รวมถึงพนักงานบริการดีตั้งแต่แรกเจอด้วยค่ะ
จับคู่สีน่ารักสดใสในธีม Pink & Blue
งานแต่งของเราเลือกใช้ธีมสีชมพูและสีฟ้า เราตกแต่งงานด้วยดอกไม้เพียงเล็กน้อยและพยายามหาวัสดุอื่นมาทดแทน เนื่องจากหยุนห่าวแพ้เกสรดอกไม้ อย่างตรงแบ็คดรอปถ่ายภาพด้านนอก เราใช้ลูกโป่งตกแต่ง และเพิ่มความแวววาวให้ฉากหลังด้วยกลิตเตอร์
ด้านข้างมีจุดถ่ายรูปเก๋ ๆ ที่เราชอบมาก โดยดีไซน์เป็นกล่องกระจกใสที่ออกแบบเหมือนปกนิตยสาร และใช้ข้อความหวาน ๆ โรแมนติก ตกแต่งบริเวณกระจกด้านหน้า นอกจากนี้ ยังมีรูปภาพของเราตั้งเรียงรายตามจุดต่าง ๆ ด้านนอกอีกด้วยค่ะ
ส่วนการตกแต่งในห้องจัดงาน จะเน้นความเรียบง่าย แตกต่างจากการตกแต่งด้านนอก โดยฉากหลังเวทีตกแต่งด้วยม่านจับจีบสีขาว ติดโลโก้ชื่อบ่าวสาวไว้ตรงกลาง และวาง Flower Stand บริเวณสองฝั่งของเวที
พิธีหมั้นไทย-จีนครบจบในห้องพัก สนุกสนานและมีความเป็นส่วนตัว
ในช่วงพิธีหมั้นเช้า เราจัดตามพิธีของชาวสิงคโปร์เชื้อสายจีนผสมกับพิธีไทย เพราะนุ๊กนิกยังอยากให้มีความเป็นไทยอยู่ค่ะ ซึ่งเราตั้งใจเลือกห้องพัก One-Bedroom Suite ที่มีขนาดใหญ่ สามารถจุแขกทุกฝ่ายได้ครบถ้วน รวมถึงทีมงานและเพื่อน ๆ ของบ่าวสาว โดยไม่รู้สึกอึดอัดเกินไปค่ะ
พิธีการเริ่มจากเดินขบวนคล้ายแห่ขันหมากไทย ที่หยุนห่าวถือต้นกล้วยและมีขนมมงคลไทย ในช่วงพิธีนี้จะมีกิมมิกตรงที่เวลาพูดถึง 'เพื่อนเจ้าบ่าว' เราจะคุ้นเคยว่าต้องเป็นเพื่อนผู้ชาย ซึ่งหยุนห่าวเขามีแต่เพื่อนผู้หญิง เพื่อน ๆ เลยคิดไอเดียใส่สูทและเอาหนวดปลอมมาติดค่ะ (หัวเราะ) ตอนที่เห็นเราเซอร์ไพรส์นะ เพราะเขาไม่ได้บอกก่อนว่าจะทำแบบนี้ แต่ส่วนตัวชอบมาก ดูน่ารักดีค่ะ
เมื่อขบวนเจ้าบ่าวเคลื่อนตัวมาถึงโซนห้องนั่งเล่น ก็ต้องเล่นเกมคล้ายการผ่านประตูเงินประตูทองตามประเพณีไทย หากเจ้าบ่าวตอบผิด จะต้องกินอะไรแปลก ๆ หรืออาหารที่มีรสขม ๆ เผ็ด ๆ ซึ่งถือเป็นอีกช่วงที่สร้างสีสันและเรียกเสียงหัวเราะได้มากเลยค่ะ
หลังจากผ่านด่านได้แล้ว เจ้าบ่าวจะมาหานุ๊กนิกที่รออยู่ในห้องส่งตัว และทานขนม Tang Yuan ด้วยกัน เพื่อความเป็นสิริมงคล ตามความเชื่อของชาวจีน-สิงคโปร์นั้น หากได้ทานขนมนี้แล้ว คู่แต่งงานจะอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุข ไม่ทะเลาะเบาะแว้งกันค่ะ
เสร็จเรียบร้อยก็ปูเรียงสินสอด คุณพ่อคุณแม่กล่าวคำอวยพรบ่าวสาว และจบพิธีด้วยการนั่งรับประทานอาหารร่วมกันค่ะ
พิธีเย็นสุดอบอุ่นและซาบซึ้งใจ
เรามีพิธียกน้ำชาก่อนเข้าสู่งานฉลอง โดยหยุนห่าวใส่ชุดสูทและนุ๊กนิกใส่ชุดไทย เพราะอยากให้มีฟีลไทย ๆ ในงานค่ะ ต่อด้วยพิธีสวมแหวนและให้คำมั่นสัญญาต่อกัน
จากนั้น เราก็ไปเปลี่ยนเป็นชุดเจ้าสาวสีขาวสำหรับช่วงงานเลี้ยงฉลองค่ะ ซึ่งเราจะเปิดตัวโดยให้หลานของหยุนห่าว 2 คนเดินโปรยดอกไม้นำหน้าบ่าวสาว หลังจากนั้นก็ขึ้นเวที ตัดเค้ก รินแชมเปญทาวเวอร์ และออกมาโยนดอกไม้กันที่ลานด้านนอกค่ะ
หลังจบพิธีนี้ หยุนห่าวขอให้เรากลับมาใส่ชุดไทยอีกรอบ ตอนแรกก็งง ๆ ว่าเพิ่งใส่ไป แต่ก็ยอมเปลี่ยน แล้วเขาก็ทำเซอร์ไพรส์ด้วยการใส่ชุดไทยคู่กัน ตัวเขาเองไม่เคยใส่ชุดไทยมาก่อน แต่เขาอยากให้ญาติ ๆ ชาวต่างชาติได้เห็นถึงวัฒนธรรมไทยค่ะ
เราเลยเปลี่ยนมาใส่ชุดไทยเข้าไปในห้องจัดเลี้ยงอีกครั้ง เพื่อทำพิธีของชาวสิงคโปร์เชื้อสายจีน ด้วยการตะโกนว่า 'Yamseng' คล้ายการไชโยของบ้านเรา โดยต้องพูด Yamseng ลากเสียงให้ยาวที่สุด 3 ครั้งเพื่อเป็นสิริมงคล ช่วงนี้ก็เรียกเสียงฮือฮาและสนุกสนานมากค่ะ
จบคิวนี้ เราสองคนเซอร์ไพรส์แขกด้วยการเชิญ Special Guest ยูทูบเบอร์ชาวไทยสายฮาที่คนสิงคโปร์ชื่นชอบมาก ๆ ก็คือคุณ Happy Polla มาเอนเตอร์เทนแขกค่ะ แล้วจึงไปเปลี่ยนชุดมาดื่มกันในงานอาฟเตอร์ปาร์ตี้ ร่วมถ่ายภาพและพูดคุยกับแขกตามโต๊ะค่ะ
เราจัดเป็นโต๊ะกลมทั้งหมด เพื่อให้แขกได้นั่งทานอาหารสบาย ๆ แล้วเลือกบุฟเฟต์ที่เน้นเมนูอาหารไทยเป็นหลัก เพราะอยากให้ชาวต่างชาติได้ลิ้มรสอาหารไทย มีปรับรสชาติให้ไม่เผ็ดเกินไป เพื่อให้ชาวสิงคโปร์ทานได้ค่ะ และเนื่องจากทางครอบครัวของหยุนห่าวชอบทานรังนกกันมาก เราจึงสั่งรังนกพิเศษมาจากเยาวราชมาไว้ให้แขกทานภายในงานและมอบเป็นของชำร่วยที่ระลึกด้วยค่ะ
ประทับใจได้จัดงานแต่งงานตามความฝัน
นุ๊กนิกอยากขอบคุณหยุนห่าวที่สร้างความประทับใจให้เสมอ ตั้งแต่ตอนคบกัน จนถึงช่วงเตรียมงาน เขาจัดเตรียมและดูแลงานแต่งมากเป็นพิเศษ เพราะไม่อยากให้เราเหนื่อย นอกจากนี้เราซาบซึ้งใจที่ครอบครัวยอมรับความเป็นตัวตนของเราสองคน และคอยดูแลช่วยเหลืองานแต่งอย่างเต็มที่
ส่วนเจ้าบ่าวเองก็ประทับใจญาติ ครอบครัว และเพื่อน ๆ ชาวสิงคโปร์กว่า 100 ท่าน ที่เดินทางมาร่วมงาน แสดงให้เห็นถึงความรักที่แขกมีต่อเราทั้งสองคน ทางด้านของทีมงาน เราปลื้มหมดเลยค่ะ อย่างทีมช่างภาพ นอกจากจะมาถ่ายรูปแล้ว เขายังให้กำลังใจและคอยให้คำแนะนำ บอกคิวต่าง ๆ เวลาเห็นเรากังวลค่ะ
ในส่วนของโรงแรม ตั้งอยู่ในทำเลใจกลางเมืองซอยสุขุมวิท 24 สะดวกต่อการเดินทางค่ะ และเมื่อได้เข้ามาอยู่ในตัวโรงแรมแล้ว ต้องบอกว่าบรรยากาศเงียบสงบ สวยงาม พนักงานทุกคนก็คอยให้ความช่วยเหลือและบริการดีมาก ๆ จนเราเกรงใจเลยค่ะ นอกจากนี้เราชอบห้องพักที่มีขนาดใหญ่และเห็นวิวกรุงเทพฯ จากมุมสูงด้วยค่ะ
สุดท้ายนี้ เราอยากขอบคุณคุณเดียร์ เซลล์ที่ช่วยเหลือเราดีมาก ขาดเหลืออะไร เขาพยายามจัดหาให้ตลอด แม้ว่าใกล้วันแต่งงาน เราจะส่งข้อความหาเขาบ่อย ๆ ทุกวัน แต่เขาก็ยังเต็มใจให้ความช่วยเหลือและคำแนะนำตลอด และถึงแม้วันงานเขาจะติดงานอื่น ก็ยังส่งทีมงานมาช่วยดูแลงานเราเป็นอย่างดีค่ะ
คำแนะนำบ่าว-สาว
คู่รัก LGBTQ+ อยากจัดงานแต่ง จัดเลย! : แม้ตอนนี้การจดทะเบียนคู่ชีวิตจะยังไม่เกิดขึ้น แต่เราสามารถสร้างความสุขให้ตัวเองและครอบครัวได้ด้วยการจัดงานแต่ง หากเราไม่ได้ทำให้ใครเดือดร้อนก็จัดเลย เพราะเมื่อเราย้อนกลับมาดูภาพงานแต่งอีกครั้ง หรือเอาภาพเหล่านี้ให้ลูก ๆ ดู เราจะมีแต่ความสุขและความทรงจำที่ดีค่ะ
พักผ่อนให้เพียงพอ : หากนอนน้อยจะทำให้บ่าวสาวเพลียและเหนื่อยล้า จนออกมาทางใบหน้าที่ดูไม่สดใส ฉะนั้นควรพักผ่อนให้เพียงพอจะได้มีพลังเรี่ยวแรงในการรับแขก และเผื่อไว้ว่าต้องวิ่งดูงานบางส่วน ในกรณีที่มีอะไรตกหล่นหน้างานด้วยค่ะ
บ่าวสาวอยากใส่กี่ชุด ก็จัดไป : สิ่งที่ทำให้เราย้อนกลับมาได้ คือภาพงานแต่งงานที่จะอยู่กับเราไปจนแก่ ดังนั้นถ้าบ่าวสาวมีหลายชุดที่ถูกใจและอยากใส่ในวันแต่งงานก็จัดไปเถอะ แม้ว่าอาจวุ่นวายและเหนื่อยตอนเปลี่ยนชุดสักหน่อย แต่รับรองคุ้มค่า เพราะเราจะมีแต่ความประทับใจและรอยยิ้มที่ได้เห็นสิ่งที่ฝันอยากจะทำอยู่ในวันนั้นทั้งหมด
Credits & ร้านค้าแนะนำในบทความนี้
สถานที่แต่งงาน:
Marriott Executive Apartments Sukhumvit Park Bangkok