รีวิวงานแต่ง จัดงานธีม Galaxy & Supermoon ได้ดั่งฝัน ณ The Portal Ballroom @Impact Wedding

The Portal Ballroom @Impact Wedding ห้องบอลรูมสุดอลังการ ตกแต่งล้ำสมัย รองรับแขกได้ถึง 600 ท่าน

       แพรกับพี่บอม (เจ้าบ่าว) ตั้งใจเชิญแขกมาร่วมงานกว่า 500 คน ดังนั้นห้องจัดงานต้องใหญ่และกว้างขวางพอที่จะรับรองแขกได้แบบไม่แออัด ซึ่งตอนนั้นไม่ได้คิดถึงที่อื่นเลย นอกจาก Impact Wedding (อิมแพ็ค เวดดิ้ง) เพราะเป็นสถานที่ที่ทุกคนรู้จักดีค่ะ ก่อนไปดูสถานที่จริง เราก็ทำการบ้านและหาข้อมูลของห้องจัดงานไปพอสมควรค่ะ เมื่อเจอพี่กบ ฝ่ายขายของอิมแพ็ค เมืองทองธานี ที่คอยช่วยแนะนำห้องจัดงานต่าง ๆ โดยพาไปดู The Portal Ballroom เป็นห้องแรก ก็ยิ่งประทับใจค่ะ ทั้งขนาดห้องโอ่อ่าโอ่โถง ตอบโจทย์ของเรา เพดานหลังคาสูงทรงโค้ง รวมถึงสไตล์การตกแต่งล้ำสมัย สวยสะกดสายตา เข้ากับธีมงานที่คิดไว้ หลังจากดูเสร็จ เราตกลงกันเลยว่าจะเอาห้องนี้ค่ะ

จัดงานแต่งได้ดั่งฝัน ได้แรงบันดาลใจจากเพลง ‘งานเต้นรำในคืนพระจันทร์เต็มดวง’  

       แพรใฝ่ฝันมาตลอดระยะเวลา 12 ปีว่า ถ้าได้แต่งงานอยากจัดธีม Galaxy ที่ใช้สีน้ำเงิน-เทาเป็นหลัก และมีพระจันทร์ดวงกลมโตอยู่ในงาน เพราะแพรได้แรงบันดาลใจการตกแต่งมาตั้งแต่ตอนฟังเพลง 'งานเต้นรำในคืนพระจันทร์เต็มดวง' ของวง COCKTAIL ค่ะ  

       พอเป็นธีม Galaxy ก็ไม่อยากใช้ดอกไม้เยอะ เพราะกลัวไม่เข้ากันค่ะ อย่างแบ็คดรอปถ่ายภาพก็ใช้ดอกไม้ตกแต่งแค่ตรงพื้น เพื่อให้มีชีวิตชีวา และซ่อนไฟ LED ไปตามเส้นสายบนฉาก ซึ่งลวดลายที่ทำขึ้น ตั้งใจให้ล้อไปกับการตกแต่งของห้องบอลรูมด้วยค่ะ  

       มุมแกลเลอรี่ เราให้ทีมงานตกแต่งดอกไม้และสร้างบล็อกเปล่าขนาดใหญ่ไว้ติดภาพบ่าวสาว เราปริ้นท์ภาพแคนวาสเอง โดยเลือกภาพที่เราชอบที่สุด เพราะตั้งใจว่าจบงานแล้วจะนำไปตกแต่งที่บ้านต่อค่ะ  

       โชคดีที่ช่วงเตรียมงานแต่ง ทางสถานที่ติดตั้งจอ LED ในห้องจัดงานเพิ่ม ทำให้เรานำฟังก์ชั่นนี้มาเสริมการตกแต่งให้เป็นตามฝันยิ่งขึ้น และตกแต่งเพิ่มเติมแค่แท่งไฟ ดอกไม้ และฉากเหลี่ยมตรงพื้นเวทีค่ะ ส่วนโมชั่นกราฟิกบนจอมีหลายฉาก ปรับเปลี่ยนตามพิธีการ ที่ขาดไม่ได้เลย คือฉากพระจันทร์ดวงกลมโตที่หมุนอยู่ตลอดค่ะ นอกจากนี้ แพรยังทำฉากโมชั่นเองด้วย เป็นรูปผ้าพลิ้วไหว ตอนดึงริบบิ้นช่อดอกไม้ค่ะ พอถึงช่วงพิธีการ เราจะย้อมไฟห้องเป็นสีน้ำเงินให้เข้าธีมกาแล็กซี่ด้วยค่ะ

งานเลี้ยงฉลอง อบอวลด้วยความอิ่มอก อิ่มใจ และอิ่มท้อง

       งานนี้เรามอบของชำร่วยเป็นพวงกุญแจหนังถัก เลือกตามความเชื่อของคุณแม่ที่มองว่าพวงกุญแจจะเก็บรวบรวมกุญแจดอกเล็ก ๆ ให้อยู่ด้วยกัน เปรียบเหมือนความรักที่อยู่รวมกันค่ะ  

       เมื่อถึงช่วงเปิดตัวบ่าวสาว แพรจะเดินเข้าไปในงานกับคุณพ่อ ขณะที่พี่บอมอยู่ในห้องแล้วเดินมาหา โดยมีโมเมนต์เขินปนขำ เพราะพี่บอมรู้ว่าแพรไม่ใช่สายหวาน เขาคุกเข่าลงกับพื้นเพื่อมอบดอกไม้ให้ค่ะ จากนั้นก็ควงแขนกันเดินผ่านเพื่อน ๆ ที่เราเลือกให้โปรยกลิตเตอร์แทนการยิงเปเปอร์ชู๊ต เพราะกลัวตอนยิงพลุเสียงดังแล้วแขกจะตกใจค่ะ

       เนื่องด้วยคู่เราได้มีโอกาสรับพระราชทานรดน้ำสังข์จากสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ซึ่งนับเป็นการได้รับน้ำสังข์และคำอวยพรอันสูงสุดแล้ว ประธานที่ให้เกียรติขึ้นมาบนเวทีจึงทำหน้าที่เพียงกล่าวถวายพระพรชัยมงคล และนำดื่มถวายพระพรค่ะ  

       จบแล้วก็ถึงคิวคุณพ่อคุณแม่ของเรากล่าวขอบคุณแขก ต่อด้วยเราลอดซุ้มกระบี่เพื่อไปตัดเค้ก และเดินกลับมามอบเค้กให้คุณพ่อคุณแม่บนเวที เพื่อให้แขกในงานได้มองเห็นด้วยค่ะ ต่อมาเป็นคิวบ่าวสาวพูดความในใจ ระหว่างนี้ก็เปิดคลิปรวมช็อตที่เราเคยเที่ยวด้วยกัน ซึ่งพี่บอมแอบทำมาเซอร์ไพรส์แพรค่ะ แล้วเขาก็เผยความรู้สึกที่ยาวเหมือนทอล์คโชว์ ตรงข้ามกับแพรที่พูดสั้นมากค่ะ

       ปิดท้ายงานแต่งด้วยการดึงริบบิ้นช่อดอกไม้ ตอนแรกเราเปิดเพลงสากลน่ารัก ๆ แต่พอมีคนได้รับดอกไม้ เรากระชากฟีลเปิดเพลง ด่วนพิศวาส ของคุณแม่ผ่องศรี วรนุช เพียงขึ้น 'เสียงรถด่วนขบวนสุดท้าย' ก็เรียกเสียงฮาได้เลย ถือเป็นสีสันเล็ก ๆ น้อย ๆ ให้งานค่ะ

       สำหรับอาหารจัดเลี้ยง เราเลือกเมนูโต๊ะจีน เพราะเคยไปงานแต่งงานของลูกเพื่อนคุณพ่อ แล้วชอบบรรยากาศที่ดูเป็นระเบียบ แขกไม่ต้องลุกขึ้นไปตักอาหารให้วุ่นวาย แถมได้ความสบายมากกว่า เพราะมีพนักงานช่วยบริการให้ค่ะ โดยงานนี้มีทั้งกระเพาะปลาผัดแห้ง ไก่จ๊อ ซุปเป่าฮื้อ เป็ดน้ำแดงเห็ดหอม และปลากะพงนึ่งบ๊วย ซึ่งทุกเมนูมาจาก “ฮ่องกง ฟิชเชอร์แมน” ทำให้เรามั่นใจในเรื่องรสชาติและคุณภาพค่ะ  

อบอวลไปด้วยความรัก อิ่มเอมไปกับความสุข ในบรรยากาศแสนโรแมนติก

       เราเหนื่อยกับการเตรียมงานมาเป็นปี ได้เห็นแบบนี้ก็ภูมิใจค่ะ โดยเฉพาะการได้รับคำชมจากแขกผู้ใหญ่ที่บอกว่างานเรียบง่าย แต่คงไว้ซึ่งบรรยากาศดีและอบอุ่นค่ะ  

       ทีมงานที่คัดสรรมา ตั้งแต่ช่างแต่งหน้าที่ไม่ใช่แค่แต่งหน้าอย่างเดียว แต่ยังให้คำแนะนำเรื่องความสวยความงาม เพื่อให้เราดูดีที่สุด สำหรับชุดแต่งงานที่เราเลือกใช้ 3 ชุดจากร้านเดียวกัน พอเจ้าของรู้ว่าเรามีโอกาสรับพระราชทานน้ำสังข์ ก็ตั้งใจเลือกชุดไทยที่ดีที่สุดให้เรา ซึ่งราคาแพงกว่าที่เราจ่ายไปมากค่ะ ต่อมาประทับใจทีมตกแต่งที่เนรมิตงานออกมาได้สวยถูกใจ และชอบที่แพ็กเกจงานแต่งของสถานที่ราคาชัดเจน ไม่มีบวกเพิ่ม ทำให้เราจัดการงบได้ง่ายขึ้นค่ะ 

       พอพูดถึง Impact Wedding แล้ว อยากบอกว่าเราประทับใจหลายอย่างมาก ตั้งแต่ห้องบอลรูมที่เป็นส่วนช่วยทำให้ธีมงานเราสวยมากขึ้นจริง ๆ ที่จอดรถมีเพียงพอ ไม่ต้องวนหาให้วุ่นวาย แม้ว่าวันแต่งงานเราจะตรงกับคอนเสิร์ต Mark Tuan แต่ก็ไม่มีปัญหาเลยค่ะ

       สุดท้ายนี้ ทั้งประทับใจและอยากขอบคุณ พี่กบกับพี่ขวัญ ที่ดูแลคู่เราดีมาก อย่างวันแต่งงาน ไม่ว่าจะหันไปทางไหนก็จะเห็นพี่กบอยู่ในสายตาตลอด เหมือนเขาพร้อมช่วยเหลือเราเสมอ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นค่ะ  

คำแนะนำสำหรับบ่าว-สาว

มีเวลาแพลนงานนานยิ่งดี : ถ้าเราเริ่มแพลนงานไวก็มีโอกาสเจอตัวเลือกที่มากกว่า และได้สิ่งที่เราถูกใจมากที่สุด หากเรามีเวลาเตรียมงานน้อยไป แถมวันแต่งงานเป็นวันมหาฤกษ์ด้วยแล้ว จะยิ่งทำให้เราเครียด เพราะตัวเลือกน้อยลง และคิวทีมงานต่าง ๆ อาจเต็มด้วย

อะไรที่ต้องจ่าย ก็จ่าย : การจัดงานแต่งอย่าเหนียมเกินไป เพราะบางอย่างก็ควรลงทุน เพื่อแลกความสบายใจ เช่น หากจัดงานขนาดใหญ่ การใช้เพื่อน ๆ ช่วยรันคิวและดูแลงานทั้งหมด ก็คงไม่เหมาะเท่าไหร่ ควรจ้างรันคิวมืออาชีพดีกว่า เพราะเขาเชี่ยวชาญและมีประสบการณ์ ช่วยลดโอกาสผิดพลาดหน้างาน และทำให้งานราบรื่นขึ้น

เก็บโมเมนต์ดี ๆ  ด้วยการจ้างทีมวิดีโอ : วันแต่งงานบ่าวสาวจะยุ่งวุ่นวายกับการรับแขก ไม่สามารถเห็นทุกโมเมนที่เกิดขึ้นได้ การมีวิดีโอจะช่วยเก็บภาพบรรยากาศต่าง ๆ ที่บ่าวสาวอาจพลาดไป ให้เราเห็นเป็นภาพเคลื่อนไหว หากย้อนกลับมาดูจะเห็นภาพรวมได้ชัดเจนกว่า

ถ้าจำนวนแขกไม่แน่นอน อย่าจัดโต๊ะจีน : แขกมีโอกาสแคนเซิลงานได้จนนาทีสุดท้าย และการจัดโต๊ะจีนนั้น จำเป็นต้องฟิกซ์รายชื่อแขกตามโต๊ะ ฉะนั้นพอแขกไม่มางาน เราอาจต้องมาวุ่นอีกครั้งในวันแต่งงาน เพื่อจัดเซ็ตแขกใหม่ไม่ให้โต๊ะจีนดูโล่งเกินไป

ถือคติ 'อดทนและใจเย็น' : ช่วงเตรียมงานแต่ง อาจมีเหตุให้บ่าวสาวทะเลาะกันได้ เพราะมีหลายฝ่ายเข้ามาเกี่ยวข้อง และหลายเรื่องที่ต้องจัดการ อยากให้บ่าวสาวพูดคุยกันตรง ๆ ด้วยความใจเย็นและอดทน เพราะถ้าผ่านช่วงเวลานี้ไปได้ จะไม่มีเรื่องอะไรให้น่ากังวลอีกแล้ว

Photographer : Ninefoto, Baimon Ztudio