วันลองชุดแต่งงานอาจเป็นวันที่ว่าที่เจ้าสาวหลายคนตื่นเต้นและรอคอยเป็นพิเศษ แต่ก็มาพร้อมความกังวลว่าจะต้องทำอะไร หรือเตรียมตัวยังไงบ้าง วันนี้ SabuyWedding มีคำตอบให้ค่ะ
1. หาแบบที่ชอบก่อนไปลองชุดแต่งงาน
แนะนำให้เจ้าสาวหา reference สไตล์ชุดที่ชอบเตรียมเอาไว้ แล้วนำไปให้ทางร้านดูค่ะ เขาจะได้จับทางถูกว่าเราชอบแบบไหน เช่น แนวมินิมอลแต่ดีไซน์เท่ สไตล์หวานน่ารักแบบเจ้าหญิง หรือจะชอบแบบเซ็กซี่ ฯลฯ เพื่อที่ร้านจะได้มีไอเดียในการแนะนำ และประหยัดเวลาในการเลือกหยิบชุดสวย ๆ มาให้เราลองได้อย่างตรงใจค่ะ
2. ทำผมใกล้เคียงกับวันจริงไปลองชุดแต่งงาน
ถ้าเราทำทรงผมที่ใกล้เคียงกับวันแต่งงานจริงไปลองชุด เช่น มัดมวย มัดครึ่งหัว ปล่อยผมดัดลอน ฯลฯ จะช่วยให้เราเห็นโครงหน้า ไหล่ และระดับความยาวของผมอย่างชัดเจน ทำให้เห็นภาพมากขึ้นว่าชุดที่เลือกเข้ากับทรงผม หรือลุคของเราในวันนั้นไหม
3. แต่งหน้าไปลองชุดแต่งงาน
เจ้าสาวควรแต่งหน้าในวันที่ไปลองชุดแต่งงาน ไม่ต้องถึงขนาดจ้างช่างแต่งหน้าก็ได้ค่ะ อาจแต่งหน้าอ่อน ๆ ให้พอมีสีสัน เพื่อที่เราจะได้รู้ว่าชุดที่เราเลือกเหมาะหรือเปล่า ใส่แล้วเราเอาอยู่หรือดรอปไหม เพราะถ้าไม่แต่งหน้าเลย อาจดูว่าเราใส่ชุดไหนก็ไม่สวยไปหมด แต่ที่จริงแล้วแค่ใบหน้าเราขาดสีสันค่ะ
4. ใส่ชุดชั้นในของวันจริงไปลองชุดแต่งงาน
ควรเตรียมชุดชั้นในทั้งชิ้นบนและล่างที่จะใส่ในวันงานไปเลยค่ะ เช่น เสื้อชั้นในไร้สาย เสื้อชั้นในเสริมฟองน้ำ หรือกางเกงชั้นในแบบเก็บพุง เพื่อทางร้านจะได้เก็บทรงชุดถูกค่ะ ว่าอกเอวสะโพกเราจะประมาณไหน ไม่ให้หลวมจนโป๊ หรือถ้ามีรอยขอบ รอยย่นตรงไหน จะได้ปรับแก้ให้สวยเป๊ะทุกดีเทลค่ะ
5. เตรียมรองเท้าสูงเท่าวันจริงไปลองชุดแต่งงาน
ถ้ายังไม่ได้รองเท้าคู่ไฟนอล อย่างน้อยควรมีคู่ที่สูงใกล้เคียงกับที่คิดว่าจะใช้ในวันจริงไปด้วย โดยคำนวณเบื้องต้นจากความสูงเจ้าบ่าวค่ะ ยิ่งเอาไปตั้งแต่ครั้งแรกเลยยิ่งดี จะได้รู้ว่าชุดยาวหรือสั้นเต่อเกินไปไหม โดยเฉพาะร้านที่ไม่มีบริการปรับแก้ชุดให้ค่ะ แต่ถ้าเป็นร้านที่ปรับชุดให้ได้ ก็จะได้เห็นภาพว่าควรปรับความยาวประมาณไหนดี และไม่ต้องเสียเวลาแก้หลายรอบด้วยค่ะ
6. ไม่ทาเครื่องสำอางที่ตัวไปลองชุดแต่งงาน
สาว ๆ บางคนอาจใช้เครื่องสำอางบริเวณตัว เช่น ทาครีมปรับผิวขาว ปัดชิมเมอร์ที่ไหล่ ทารองพื้นลงมาถึงคอและไหล่ หรือทาปิดวงแขนเพิ่มความมั่นใจ ฯลฯ ซึ่งเป็นการแต่งเสริมลุคปกติของเรา และอาจลืมนึกไปถึงว่าเครื่องสำอางเหล่านี้ จะไปเปื้อนชุดเจ้าสาวที่เราลอง จนเป็นรอยหรือเสียหายได้ค่ะ
7. ไม่ใส่เครื่องประดับเยอะไปลองชุดแต่งงาน
นอกจากเครื่องประดับที่เราตั้งใจจะใส่ในวันแต่งงาน และนำมาลองกับชุดให้ดูว่าเข้ากันไหมแล้ว แนะนำให้ไม่ต้องใส่เครื่องประดับอื่น ๆ เยอะเกินไปในวันที่มาลองชุดค่ะ เพราะอาจจะไปเกี่ยวติดหรือทำชุดเสียหายได้ หรือถ้าต้องถอดเก็บก็อาจเสียเวลา แถมเสี่ยงต่อการตกหล่นหรือลืมด้วยค่ะ
8. เตรียมค่าลองชุดแต่งงาน
แนะนำให้บ่าวสาวลองสอบถามดูก่อนว่าร้านนั้นลองชุดแต่งงานเสียเงินไหม เพราะบางร้านอาจมีค่าบริการในการจองคิวและลองชุดแต่งงานด้วยค่ะ หากทางร้านต้องการให้ชำระในวันลองชุด จะได้เตรียมเงินไปให้พร้อมค่ะ
9. อย่าลืมเปิดใจลองชุดแต่งงาน
อยากให้ลองเปิดใจรับอะไรใหม่ ๆ ที่ดีไซเนอร์เขาแนะนำให้ค่ะ แม้ว่าจะต่างจากเรฟหรือชุดแต่งงานในฝันของเรา ก็อยากให้ลองใส่ดูก่อนค่ะ อย่าเพิ่งตั้งธงหรือคิดไปเองว่าคงไม่เข้ากับเรา บางครั้งชุดที่ชอบอาจไม่ใช่ชุดที่ใช่สำหรับเราก็ได้ แต่มืออาชีพเขาจะสามารถบอกได้ว่าหุ่นของเราใส่ชุดแบบไหนแล้วจะสวยที่สุดค่ะ
การเตรียมความพร้อมก่อนไปลองชุดแต่งงาน นอกจากจะทำให้วันไปลองชุดราบรื่นแล้ว ยังช่วยลดปัญหาที่อาจขึ้นในขั้นตอนเตรียมงานแต่งไปได้เยอะเลยค่ะ ถ้าเพื่อน ๆ อยากหาร้านชุดแต่งงานที่ใช่หรือร้านค้าหมวดอื่น ๆ เพิ่มเติม ค้นหาง่าย ๆ ได้ที่นี่เลยค่ะ