สาว ๆ ที่มีปัญหาต้นแขนใหญ่ ไม่กระชับ แม้จะออกกำลังกายก็แล้ว คุมอาหารแล้วแต่ก็ไม่เห็นผล แถมต้องเตรียมตัวเป็นเจ้าสาวแบบนี้ จึงอาจทำให้รู้สึกกังวลว่าจะใส่ชุดแต่งงานออกมาดูไม่เป๊ะไปอีก แต่อย่าเพิ่งนอยด์ค่ะ วันนี้ SabuyWedding รวม 3 เคล็ดลับลดต้นแขน แขนใหญ่ แบบเร่งด่วนทันใจมาฝาก จะมีวิธีไหนบ้างมาดูกันเลยค่ะ
1. วิธีลดต้นแขนด้วย เมโสแฟต
การฉีดเมโสแฟตต้นแขน เป็นวิธีที่ราคาไม่แพง เจ็บตัวน้อย ไม่ต้องผ่าตัดหรือพักฟื้น ซึ่งจะเหมาะกับคนที่มีไขมันบริเวณต้นแขนเยอะ โดยเป็นการฉีดตัวยาที่มีฤทธิ์ในการสลายเซลล์ไขมันส่วนเกินบริเวณต้นแขน ลงไปในชั้นผิวลึกประมาณ 5-10 mm เพื่อทำให้เซลล์ไขมันแตกตัว และจะถูกขับออกทางร่างกายตามธรรมชาติ ต้นแขนจึงดูเรียวเล็กลงนั่นเองค่ะ
สำหรับผลลัพธ์นั้น จะเห็นผลรวดเร็วภายใน 2-3 สัปดาห์หลังฉีด และอยู่ได้นานถึง 3 เดือน โดยในครั้งแรกที่ทำ จะเห็นผลประมาณ 10-15% ค่ะ แล้วจะค่อย ๆ เห็นว่าต้นแขนเล็กลงชัดเจนขึ้นเรื่อย ๆ ดังนั้นแนะนำว่าสาว ๆ ควรวางแผนฉีดเมโสแฟตต้นแขนล่วงหน้าก่อนงานแต่งประมาณ 2-3 เดือนค่ะ
2. วิธีลดต้นแขนด้วย โบท็อกซ์
การฉีดโบท็อกซ์ลดต้นแขน วิธีนี้จะเหมาะกับคนที่มีกล้ามเนื้อบริเวณต้นแขนเยอะ ซึ่งโบท็อกซ์จะช่วยเข้าไปแก้ไขได้ตรงจุดกว่าค่ะ เพราะตัวยา Botulinum Toxin Type A มีคุณสมบัติทำให้กล้ามเนื้อคลายตัว ส่งผลให้ขนาดกล้ามเนื้อเล็กลงได้นั่นเองค่ะ ซึ่งก็ถือว่าเป็นวิธีที่ไม่ต้องใช้เวลานาน ไม่เจ็บตัวเยอะ และราคาไม่สูงด้วยค่ะ
สำหรับผลลัพธ์นั้น จะเห็นผลตั้งแต่การฉีดครั้งแรกประมาณ 10-20% ค่ะ และจะเห็นผลเต็มที่ใน 2-3 เดือน หากต้องการเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจน แนะนำว่าควรทำล่วงหน้าและฉีดซ้ำทุก ๆ 3 เดือน ซึ่งจะอยู่ได้ประมาณ 1 ปีเลยค่ะ
3. วิธีลดต้นแขนด้วย Coolsculpting
การทำ Coolsculpting สลายไขมันต้นแขนแบบถาวร เหมาะกับคนที่มีไขมันบริเวณต้นแขนเยอะ แต่ไม่เหมาะกับคนที่น้ำหนักตัวเยอะมาก ๆ โดยเป็นวิธีการสลายไขมันเฉพาะจุดด้วยความเย็นของกระบวนการไครโอไลโปไลซิส (Cryolipolysis) โดยใช้ความเย็น -11°C เพื่อแช่แข็งไขมัน ความเย็นจะเปลี่ยนสภาพเซลล์ไขมันให้กลายเป็นผลึกน้ำแข็ง เมื่อเซลล์ไขมันตายก็จะแล้วสลายตัวไปตามระบบของร่างกายโดยธรรมชาติ
สำหรับผลลัพธ์นั้น จะสังเกตได้ว่าแขนเรียวเล็กลงทันทีหลังทำ ลดจำนวนเซลล์ไขมันลงได้ถึง 25% ต่อการทำ 1 ครั้ง และจะเกิดการเปลี่ยนแปลงชัดเจนภายใน 3 เดือนหลังจากทำ จึงรู้สึกว่าต้นแขนกระชับขึ้นค่ะ ดังนั้น แนะนำสาว ๆ ทำก่อนวันงานประมาณ 2-3 เดือนนะคะ
สรุป ควรลดต้นแขนด้วยวิธีไหนดี เมโสแฟต/โบท็อกซ์/Coolsculpting
เมโสแฟต : เหมาะกับคนที่มีไขมันบริเวณต้นแขนเยอะ ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับระบบเผาผลาญของแต่ละคน ราคาถูก แต่ไม่สามารถเห็นผลได้ทันทีแบบ Coolsculpting
โบท็อกซ์ : เหมาะกับคนที่มีกล้ามเนื้อบริเวณต้นแขนเยอะ มีไขมันน้อย เพราะโบท็อกซ์จะช่วยลดกล้ามเนื้อ ทำให้ขนาดของแขนและบ่าดูเล็กลง
Coolsculpting : เหมาะกับคนที่มีไขมันบริเวณต้นแขนเยอะ เซลล์ไขมันตายและลดลงแบบถาวร เห็นผลลัพธ์ชัดเจนกว่า อยู่ได้นานกว่าและราคาสูงกว่า เมโสแฟต
ทั้งนี้ ผลลัพธ์ที่ได้ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล และก่อนตัดสินใจทำ ว่าที่เจ้าสาวควรศึกษาข้อมูลของหัตถการ เลือกคลินิกที่มีมาตรฐาน รวมถึงปรึกษาผู้เชี่ยวชาญจะดีที่สุดค่ะ