ว่าที่เจ้าบ่าวเจ้าสาวอย่ามัวแต่เตรียมงานแต่งงานจนลืมอีกหนึ่งเรื่องสำคัญอย่างการตรวจสุขภาพก่อนแต่งงานนะ เพราะสิ่งนี้จะทำให้เรามั่นใจว่าเราและคู่สุขภาพแข็งแรง สมบูรณ์ ไม่มีปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดโรคต่าง ๆ ที่อาจทำให้ชีวิตคู่สะดุดในอนาคต รวมถึงจำเป็นต่อการวางแผนครอบครัวด้วย เนื่องจากสามารถตรวจในเรื่องของการมีลูกในอนาคตได้ สำหรับคนที่อยากรู้ว่า ตรวจสุขภาพก่อนแต่งงาน ตรวจอะไรบ้าง จำเป็นแค่ไหน และราคาเท่าไหร่ เรามีข้อมูลมาฝากกันค่ะ
ทำไมต้องตรวจสุขภาพก่อนแต่งงาน
หลายคนไม่เห็นถึงความสำคัญของการตรวจสุขภาพก่อนแต่งงาน แต่เราขอบอกว่าสิ่งนี้สำคัญมาก ไม่ว่าจะอยากมีลูกหรือไม่มีก็ตาม มาดูเหตุผลที่ควรเข้ารับการตรวจสุขภาพกันค่ะ
1. เพื่อป้องกันการส่งผ่านโรคสู่คนรัก
แม้ตัวเราหรือคู่รักจะไม่มีอาการผิดปกติแสดงให้เห็น แต่จริง ๆ แล้ว อาจมีพาหะของโรคต่าง ๆ แอบซ่อนอยู่ ทั้งการติดต่อทางเพศสัมพันธ์และผ่านทางเลือด บางโรคถ้าไม่ตรวจก็ไม่รู้ เช่น ซิฟิลิส ไวรัสตับอักเสบ หรือ HIV การตรวจสุขภาพก่อนแต่งงานจึงช่วยลดโอกาสเสี่ยงและอัตราการเกิดโรคแทรกซ้อนของคู่ชีวิต รวมทั้งลดการส่งผ่านโรคได้ด้วย
2. เพื่อการวางแผนครอบครัวอย่างเหมาะสม
ก่อนใช้ชีวิตคู่ เราต้องปรึกษากันว่าจะมีเจ้าตัวเล็กหรือไม่ ซึ่งการตรวจสุขภาพก่อนแต่งงานเป็นการเช็กความสมบูรณ์ของร่างกาย ช่วยให้คู่รักได้รู้ว่าตัวเองมีความเสี่ยงอะไรบ้าง หากสุขภาพไม่แข็งแรง มีภาวะมีบุตรยาก หรือมีความบกพร่องทางพันธุกรรม จะได้วางแผนการรักษาและวางแผนครอบครัวได้ถูก หรือหากพบว่าเป็นโรคที่สามารถป้องกันได้ด้วยวัคซีนก็จะได้ฉีดวัคซีนก่อนค่ะ เช่น โรคไวรัสตับอักเสบ โรคหัดเยอรมัน เป็นต้น
3. เพื่อเตรียมพร้อมก่อนการตั้งครรภ์
เดี๋ยวนี้ผู้หญิงแต่งงานช้าลงและตั้งครรภ์เมื่อมีอายุมาก ทำให้มีโอกาสเสี่ยงเกิดภาวะแทรกซ้อนต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นโรคเบาหวานขณะตั้งครรภ์ เสี่ยงแท้ง ครรภ์เป็นพิษ และภาวะเสี่ยงที่ลูกจะเป็นดาวน์ซินโดรม ยิ่งหากมีโรคประจำตัว เช่น โรคหัวใจ โรคไต โรคไทรอยด์ โรคความดันโลหิตสูง จะมีความเสี่ยงของโรคมากขึ้นหากตั้งครรภ์ ดังนั้นเพื่อความปลอดภัยของตัวเองและลูกน้อย จึงควรตรวจก่อนแต่งให้แน่ใจว่าเรามีสภาวะเหมาะสมพอที่จะตั้งครรภ์หรือไม่ค่ะ
4. เพื่อความปลอดภัยของลูก
ข้อนี้จำเป็นมากค่ะ หากคุณวางแผนจะมีเบบี้ ก็ต้องดูว่าพ่อแม่มีพาหะของโรคทางพันธุกรรมหรือเปล่า เช่น ธาลัสซีเมีย โรคเลือดออกไม่หยุด เป็นต้น เพราะหากฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเป็น โอกาสที่โรคเหล่านั้นจะถูกถ่ายทอดมาสู่ลูกก็มีไม่น้อยเหมือนกัน รวมไปถึงหัดเยอรมัน ซึ่งลูกน้อยสามารถติดเชื้อระหว่างตั้งครรภ์ได้ เมื่อได้รับการตรวจสุขภาพก่อนแต่งงาน คุณหมอจะให้คำปรึกษาเพื่อการตั้งครรภ์แบบลดความเสี่ยงค่ะ
หากไม่ตรวจสุขภาพก่อนแต่งงาน เสี่ยงอะไรบ้าง ?
- หากมีโรคที่แฝงอยู่แล้วไม่ได้รับการรักษา โรคอาจลุกลามหรือรุนแรงขึ้น
- อาจทำให้ไม่สามารถมีลูกอย่างที่ตั้งใจได้ และกลายเป็นสาเหตุที่บั่นทอนความสัมพันธ์
- ขาดการวางแผนครอบครัวที่ดี จึงมักมีความเครียดเมื่อเกิดการตั้งครรภ์
- อาจพบภาวะแทรกซ้อนระหว่างตั้งครรภ์ ซึ่งอาจส่งผลให้ทารกเจริญเติบโตไม่สมบูรณ์ เกิดภาวะแท้ง หรือคลอดก่อนกำหนดได้
ตรวจสุขภาพก่อนแต่งงาน ตรวจอะไรบ้าง
อีกหนึ่งข้อสงสัยที่หลายคนอยากรู้ก็คือ ตรวจสุขภาพก่อนแต่งงาน ตรวจอะไรบ้าง และตรวจละเอียดแค่ไหน เรามีรายการการตรวจสุขภาพก่อนแต่งงานมาฝากกันค่ะ
การตรวจร่างกายโดยสูตินรีแพทย์อย่างละเอียด - เป็นการตรวจดูความสมบูรณ์ของร่างกายทั้งฝ่ายชายและหญิง เช่น การวัดความดันโลหิต ตรวจปัสสาวะ เอ็กซเรย์ปอด ตรวจน้ำตาลในเลือด ไทรอยด์ การทำงานของไต ตรวจสุขภาพช่องปาก เป็นต้น รวมทั้งตรวจดูว่ามีโรคบางอย่างที่เป็นอันตรายต่อการตั้งครรภ์หรือไม่ เช่น โรคความดันโลหิตสูง โรคเบาหวาน โรคหัวใจ โรคต่อมไทรอยด์เป็นพิษ ฯลฯ
การตรวจหมู่เลือดและความเข้ากันได้ของเลือด - เพื่อความสะดวกในกรณีที่ต้องการเลือดฉุกเฉิน จะได้จัดหากรุ๊ปเลือดได้ทันท่วงที
ตรวจความสมบูรณ์ของเลือด - เพื่อดูภาวะซีด โลหิตจาง ดูความเข้มข้นของเกล็ดเลือด และปริมาณเม็ดเลือดขาว
ตรวจหาโรคทางพันธุกรรม-ธาลัสซิเมีย (Hb Typing) - เป็นการตรวจความผิดปกติทางพันธุกรรมที่อาจแอบแฝงอยู่ เพื่อดูว่าเป็นพาหะหรือไม่ มีความเสี่ยงที่จะมีบุตรเป็นโรคธาลัสซีเมียหรือไม่ ซึ่งปกติแล้วพบว่าคนไทยประมาณ 30-40% เป็นพาหะ ซึ่งโรคนี้เป็นโรคที่เกิดจากการสืบทอดทางพันธุกรรม หากพ่อและแม่เป็นโรคหรือทั้งคู่เป็นพาหะชนิดเดียวกันก็จะส่งผลกระทบถึงลูกได้
ตรวจหาเชื้อไวรัสตับอักเสบบีและซี - เนื่องจากไวรัสตับอักเสบบีและซีสามารถติดต่อได้ทางเลือดและเพศสัมพันธ์ แม้อาการไม่ค่อยชัดเจน แต่เมื่อเวลาผ่านไปหลายสิบปีจะมีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคตับแข็งและมะเร็งตับเพิ่มขึ้น ซึ่งหากตรวจแล้วพบตั้งแต่เนิ่น ๆ ว่ามีเชื้อ จะได้ดูแลรักษาให้ถูกต้อง และป้องกันไม่ให้ถ่ายทอดไปสู่บุตร
ตรวจหาภูมิคุ้มกันไวรัสตับอักเสบชนิดบี - เป็นการตรวจหาภูมิคุ้มกันไวรัสตับอักเสบชนิดบี
ตรวจหาการติดเชื้อ HIV หรือเชื้อเอดส์ - เป็นการตรวจโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ เพื่อหาทางรักษาและป้องกันได้ทันท่วงที
ตรวจการหาเชื้อซิฟิลิส - อีกหนึ่งโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ สามารถทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนระหว่างการตั้งครรภ์ หรือมีผลต่อการตั้งครรภ์ในอนาคต อย่างโรคหนองในเทียมที่จะเพิ่มความเสี่ยงต่อการท้องนอกมดลูก นำไปสู่การติดเชื้อในอุ้งเชิงกรานและเกิดภาวะมีบุตรยากในที่สุด
ตรวจหาภูมิคุ้มกันหัดเยอรมัน - การตรวจนี้จะตรวจเฉพาะผู้หญิง ซึ่งหากไม่มีภูมิคุ้มกันควรฉีดวัคซีนและคุมกำเนิดไว้อย่างน้อย 1 เดือน เพราะหากติดเชื้อในระหว่างตั้งครรภ์อาจทำให้ทารกมีความผิดปกติได้ เช่น หูหนวก ตาผิดปกติ ตับม้ามโต มีผื่นคล้ายจุดเลือดออก การเจริญเติบโตและพัฒนาการผิดปกติ จนอาจถึงขั้นเสียชีวิตได้
ตรวจสุขภาพก่อนแต่งงาน ต้องเตรียมตัวยังไง
การตรวจสุขภาพก่อนแต่งงานสามารถเตรียมตัวเหมือนการตรวจสุขภาพทั่วไปเลย เช่น
1. พักผ่อนให้เพียงพออย่างน้อย 6-8 ชั่วโมง เนื่องจากการนอนไม่พออาจส่งผลต่อความดันโลหิตและการเต้นของหัวใจ
2. งดอาหารและเครื่องดื่มอย่างน้อย 8-10 ชั่วโมงก่อนตรวจ แต่สามารถจิบน้ำเปล่าได้
3. สามารถกินยาประจำตัวก่อนตรวจสุขภาพได้ แต่ควรแจ้งเจ้าหน้าที่ก่อนเข้ารับการตรวจ
4. หากมีโรคประจำตัวหรือประวัติสุขภาพ ควรนำเอกสารติดตัวมาด้วย เพื่อใช้ประกอบการวิเคราะห์
5. งดการสูบบุหรี่ก่อนตรวจสุขภาพ เนื่องจากจะทำให้ความดันโลหิตสูง
6. งดดื่มแอลกอฮอล์อย่างน้อย 24-48 ชั่วโมง เนื่องจากมีผลต่อการตรวจ
7. เลือกสวมเสื้อผ้าที่ใส่สบายและสะดวกต่อการเจาะเลือด
8. หากมีการตรวจปัสสาวะ ควรปัสสาวะทิ้งเล็กน้อยก่อน แล้วจึงเก็บปัสสาวะตรงช่วงกลางตามปริมาณที่กำหนด
ตรวจสุขภาพก่อนแต่งงาน ราคาประมาณเท่าไหร่
หลัก ๆ แล้ว การตรวจสุขภาพก่อนแต่งงาน ราคาของผู้หญิงจะสูงกว่าผู้ชายเล็กน้อย เพราะมีการตรวจหลายรายการกว่า โดยราคาการตรวจสุขภาพสำหรับผู้ชาย เริ่มต้นประมาณ 2,800 บาท ผู้หญิงเริ่มต้นประมาณ 3,200 บาท แต่ก็จะมีแพ็กเกจตรวจสุขภาพแบบคู่ เริ่มต้นประมาณ 5,500 บาท ซึ่งจะประหยัดมากกว่า ทางที่ดีจึงควรตรวจพร้อมกันเลยค่ะ
ทราบประโยชน์ของการตรวจสุขภาพก่อนแต่งงานแล้ว ว่าที่บ่าวสาวก็อย่าลืมหาเวลาไปตรวจสุขภาพนะคะ เพื่อชีวิตคู่ที่ราบรื่นในอนาคต รวมถึงความปลอดภัยของลูกน้อยในกรณีที่วางแผนตั้งครรภ์ด้วยค่ะ